ในยุคดิจิทัลปัจจุบัน โซเชียลมีเดียได้กลายมาเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับธุรกิจในการเชื่อมต่อกับผู้ชม สร้างการรับรู้ถึงแบรนด์ และกระตุ้นการมีส่วนร่วม อย่างไรก็ตาม เมื่อพูดถึงการวัดความสำเร็จของความพยายามทางการตลาดบนโซเชียลมีเดีย ธุรกิจจำนวนมากกลับตกหลุมพรางของการพึ่งพาตัวชี้วัดที่ไร้สาระอย่าง จำนวนไลก์ การแชร์ และจำนวนผู้ติดตามเพียงอย่างเดียว เพราะถึงแม้ว่าเมตริกเหล่านี้จะแสดงให้เห็นถึงตัวเลขที่ชัดเจน แต่มันกลับล้มเหลวเมื่อเทียบกับการวัดผลกระทบและผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ที่แท้จริงของการตลาดบนโซเชียลมีเดีย
ทำความเข้าใจกับ ROI ที่แท้จริงในการตลาดโซเชียลมีเดีย
ผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) เป็นเมตริกที่สำคัญสำหรับการวัดประสิทธิภาพและความสำเร็จของแคมเปญการตลาดทั้งออฟไลน์และบนโซเชียลมีเดีย แม้ว่าเมตริกที่แสดงตัวเลขชัดเจน จับต้องได้ง่าย ๆ อย่างการถูกใจและการแชร์ จะให้ความเข้าใจในระดับพื้นผิวของการมีส่วนร่วมได้ดี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นผลลัพธ์ทางธุรกิจที่จับต้องได้ เพราะในการประเมินผลกระทบของความพยายามด้านโซเชียลมีเดียของคุณอย่างแท้จริง จำเป็นที่จะต้องเข้าใจและคำนวณ ROI อย่างลึกซึ้ง
สำหรับ ROI ที่แท้จริงในการตลาดบนโซเชียลมีเดียนั้น นอกเหนือไปจากเมตริกที่ผิวเผินและมุ่งเน้นไปกับมูลค่าที่สร้างขึ้นสำหรับธุรกิจของคุณแล้ว ยังต้องคำนึงถึงการลงทุนที่คุณทำในแง่ของเวลา ทรัพยากร และค่าโฆษณา ตลอดจนการเปรียบเทียบกับผลตอบแทนที่วัดได้อีกด้วย
ปัจจัยที่ใช้คำนวณ ROI วัดประสิทธิภาพการตลาดบนโซเชียลมีเดีย
- การลงทุน: ซึ่งรวมถึงค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการทำ Marketing บนโซเชียลมีเดียทั้งหมด เช่น ค่าโฆษณา การสร้างคอนเทนต์ เครื่องมือการจัดการโซเชียลมีเดีย และทรัพยากรของทีมที่ทุ่มเทให้กับความพยายามที่จะสร้างแคมเปญให้แล้วเสร็จ
- ผลตอบแทน: ผลตอบแทนอาจแตกต่างกันไปตามเป้าหมายทางธุรกิจของคุณ ซึ่งอาจรวมถึงการสร้างโอกาสในการขาย การเข้าชมเว็บไซต์ที่เพิ่มขึ้น การได้ลูกค้าใหม่ หรือแม้แต่รายได้ที่สร้างโดยตรงจากช่องทางโซเชียลมีเดีย
- สูตร: ROI คำนวณโดยใช้สูตร (ผลตอบแทน – การลงทุน) / การลงทุน * 100 ซึ่งจะให้เปอร์เซ็นต์ที่แสดงถึง ROI จากการลงทุนด้านการตลาดโซเชียลมีเดียอย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตาม การวัด ROI ของโซเชียลมีเดียอย่างแม่นยำอาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย เนื่องจากความยากลำบากในการระบุแหล่งที่มาของ Conversion หรือยอดขายโดยตรงจากความพยายามของโซเชียลมีเดียนั้นอาจทำได้ยาก แต่ในปัจจุบันเองก็มีกลยุทธ์และเครื่องมือที่สามารถติดตาม รวมถึงการวัดผลกระทบอีกมากที่สามารถนำมาปรับใช้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งในส่วนนี้อาจจะต้องศึกษาลึกลงไป ตามเทคนิคของใครของมัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์การทำงานที่ตอบสนองต่อวัตถุประสงค์ด้านการตลาดมากที่สุดในอนาคตนั่นเอง